วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

iPhone XR นั้น มีราคาถูกกว่า 2 รุ่น ข้างต้น และมีสเปคใกล้เคียงกับ iPhone XS ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชิป A12 Bionic เหมือนกัน, หน้าจอ LCD ที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้ OLED และดีไซน์ไร้ขอบสวยงามเช่นเดียวกัน ทำให้ iPhone XR ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ค่อนข้างมากเช่นกัน

เราลองมาดูกันว่า ถ้าท่านเลือกที่จะซื้อ iPhone XR ท่านจะได้รับประสบการณ์การทำงานในรูปแบบใดบ้าง และอะไรบ้างที่ท่านจะยังไม่ได้รับในรุ่น XR นี้

ปล. ในที่นี้ของเปรียบเทียบกันระหว่าง iPhone XR และ iPhone XS เป็นหลัก เนื่องจากราคาไม่ห่างกันมากนัก ทำให้ความน่าสนใจใกล้เคียงกัน
ที่มา https://www.beartai.com/news/mobilenews/277859

ข่าวไอโฟนxr

Goldman Sachs สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของ Apple และ ไอโฟนที่เพิ่งเปิดตัวมา โดยคาดว่ารายได้ของ Apple จะลดลงในปีงบประมาณ 2019 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่เปิดราคาขาย iPhone XR ไอโฟนรุ่นหน้าจอ LCD ออกมาถูกกว่าที่คาดไว้ (749 ดอลลาร์-(25,000 บาท)

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การทำ iPhone XR ออกมาถูกแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อ iPhone 8 และ 8 Plus ไปด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ไปลด ASP (Average Selling Price) หรือราคาเฉลี่ยรวมของไอโฟนลงไป โดยแม้นักวิเคราะห์จะเชื่อว่า iPhone XR จะขายดีมาก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเลขรายได้ในภาพรวมได้ เช่นเดียวกันกับ iPhone 6s และ iPhone SE ที่ Apple ตัดสินใจเลิกขายก็จะมีส่วนทำให้ ASP ของ Apple ลดน้อยลงไป จากไอโฟนรุ่นเก่าที่ยังขายได้เรื่อยๆ กลุ่มนี้เช่นกัน

ที่มา https://www.beartai.com/news/mobilenews/278110

iPhone Xr หรือรุ่นใหม่ราคาถูกสุด จะวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม มีจำนวนจำกัดในช่วงแรก
iPad Pro มาพร้อม Face ID เปลี่ยนจากพอร์ท Lightning เป็น USB-C รองรับการชาร์จไวถึง 18w
MacBook รุ่นใหม่ ราคาถูกลง มาแทนที่ MacBook 12 จะมี Touch ID และ Touch Bar ให้ใช้งานด้วย
Apple Watch ขอบหน้าจอบางลง เพิ่มพื้นที่การแสดงผลมากขึ้น

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

google มีการอัพเดตฉลองครบรอบ10ปีอัพเดตให้ทันสมัยขึ้นเดิมเป็นรูปสี่เหลี่ยนเปลี่ยนเป็นรูปมุมฉาก

ที่มาhttps://www.aripfan.com/google-chrome-10-year-celebrate-big-update-2018/

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561

นักวิชาการด้านกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลกฎหมายว่าด้วยการกดไลค์บนเฟซบุ๊ค โดยเผยว่า การกดไลค์ในทางกฎหมายอาญา ตามหลักกฎหมายอาญาที่ใหญ่ที่สุดคือ “ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ โดยไม่มีกฎหมาย”

ที่มา https://news.mthai.com/social-news/473379.html

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561

พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนธันวาคม เมื่อปีที่ผ่านมา (2559) และได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 มกราคม ล่าสุด มีผลบังคับใช้แล้วในวันที่ 24 พ.ค.นี้

ที่มาhttps://www.marketingoops.com/news/viral-update/computer-law/

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

โฆษกศาลชี้แจง ไม่มีฎีกาอวัยวะเพศเหม็นถูกสามีฟ้องหย่า

โฆษกศาลชี้แจง ไม่มีฎีกา อวัยวะเพศเหม็นถูกสามีฟ้องหย่า เตือนประชาชนระมัดระวังการแชร์ข้อมูล เพราะเสี่ยงความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนเเละโลกออนไลน์มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าผู้หญิงมีอวัยวะเพศส่งกลิ่น เป็นเหตุให้สามีฟ้องหย่า โดยมีการยกอ้างฎีกาที่ 488/2557 และอ้างว่าศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องโดยให้เหตุผลว่า ข้อหาอวัยวะเพศหญิงส่งกลิ่น ไม่ใช่เหตุข้ออ้างที่จะฟ้องหย่าได้ เนื่องจากอวัยวะเพศมีไว้สืบพันธ์ไม่ได้มีไว้เพื่อดม

จากการตรวจสอบพบว่าคำพิพากษาฎีกาเลขที่ 488/2557 เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ความผิดในเรื่องการฟ้องหย่าดังกล่าว และยังไม่เคยพบว่ามีคดีลักษณะเนื้อหาแบบนี้มาก่อน

ที่มาhttps://www.sanook.com/news/5798070/

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วันที่ 17 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอาทิตย์ ที่ 18 ธ.ค.2559 จะมีการนัดชุมนุมเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อ ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่เมื่อวานนี้ (16ธ.ค.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบ ประกาศให้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมาย ด้วยองค์ประชุม 172 ผลการลงมติ 168 เสียงเห็นด้วย ในขณะที่เสียงไม่เห็นด้วยนััน 0 เสียง

https://www.sanook.com/news/2131722/

พระราชบัญญัติว่าการทำความผิดในการใช้คอมพิวเตอร์ไม่ควรไลค์แชร์อะไรที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ควรกดไลค์อยู่ในขั้นเสี่ยงผิดมาตรา112

https://www.sanook.com/news/2237286/

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 แล้ว เพิ่มอัตราโทษปรับ-จำคุก หนักขึ้น วันที่ 25 ม.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ พ.ร.บ.
ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560 บังคับใช้หลังพ้นหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันประกาศ แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษปรับหรือจำคุก ฐานส่งข้อมูล

https://www.thairath.co.th/content/843633

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ลือ iPhone อาจจะเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C แทนในปี

2019

ปัญหายุ่งยากเรื่องสายชาร์จของ iPhone "อาจจะ" ถูกแก้ไขแล้วในปีหน้า แม้ว่าพอร์ต Lighning ของ iPhone จะทำหน้าที่ของมันได้ดีขนาดไหน แต่มันก็มีปัญหาใหญ่อยู่ตรงที่มันเป็นพอร์ตอินดี้ที่ใช้อยู่แค่บน iPhone เท่านั้น MacBook Pro ก็หันไปใช้ USB-C แทนแล้ว อุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็ใช้การชาร์จผ่าน Micro USB หรือหากเป็นอุปกรณ์ใหม่ๆ ก็นิยมหันมาใช้ USB-C กันแล้ว กลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องพกสายชาร์จหลายเส้นโดยปริยาย

ทางสื่อ Digitimes รายงานว่า Apple กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงของการออกแบบ โดย Apple จะเริ่มจากการให้อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C และสาย Lightning to USB-C มาในกล่องของ iPhone ก่อน และช่วงสุดท้ายของความเปลี่ยนแปลง iPhone ก็อาจจะหันมาใช้พอร์ต USB-C โดยตรงเลย ซึ่งคาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในปี 2019

อันที่จริง ความเปลี่ยนแปลงนี้มันก็สมเหตุสมผลอยู่นะ เพราะ MacBook รุ่นใหม่ของ Apple ก็หันมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว เราสามารถชาร์จมือถือแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ กับ MacBook ได้โดยตรง แต่พอจะชาร์จ iPhone เรากลับต้องต่อผ่านอะแดปเตอร์อีกที มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตลกมาก

อย่างไรก็ตาม การให้สาย Lightning to USB-C มาแทน Lightning to USB แบบปัจจุบัน เราเชื่อว่าน่าจะมาจริง และมาแน่ แต่การที่ iPhone จะใช้พอร์ต USB-C แทน Lightning เลย เราว่าเป็นไปได้ยากมาก เพราะพอร์ตนี้ถือว่ายังมีอายุที่ค่อนข้างน้อยมาก พอร์ต FireWire มีอายุถึง 12 ปี หรือพอร์ต 30 พิน ที่ใช้ใน iPhone รุ่นแรกก็มีอายุถึง 11 ปี ส่วน Lightning นี้เพิ่งจะมีอายุได้แค่ 6 ปี เท่านั้นเอง

อีกประเด็นที่สำคัญ ที่ทำให้เราคิดว่า iPhone ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ USB-C ง่ายๆ คือ "รายได้" ที่ทาง Apple ได้จาก MFi licensing program (มาตรฐานสินค้าที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple) ที่ทางผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมให้ทาง Apple ต้องจ่ายให้ Apple หากต้องการใช้โลโก้ MFi บนกล่องสินค้าเป็นใบรับรองว่าอุปกรณ์จะสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา โดยค่าใช้โลโก้ MFi อยู่ที่ $4 (ประมาณ 130 บาท) ต่อชิ้นเลยทีเดียว

คิดว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานiphoneทั่วโลก

ที่มา : mashable.com , www.digitimes.com , gizmodo.com

https://news.thaiware.com/13704.html